top of page
Search
  • Writer: Ton T2LA
    Ton T2LA
  • Mar 17, 2021
  • 1 min read

เปิดแล้ว PT x EGAT วันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา EGAT เปิดตัวสถานีอัดประจุรถยนต์ไฟฟ้าที่ปั๊ม PT ปากช่อง ภายใต้ชื่อ ElexbyEGAT

โดยสามารถจ่ายไฟแบบ DC ได้สูงสุดถึง 120kW มีบริการที่สาขานี้สองหัว และอนาคตจะมี AC ของ wallbox ด้วย


ผมได้ลองใช้งานรถ Tesla Model X พบว่าสามารถรองรับได้ถึง 75 kW เลย น่าจะมากสุดเท่าที่เคยได้ทดลองมา จากรูปผมใช้ 15นาที ได้ระยะเพิ่มขึ้นมาราว 101 กม และใช้เวลาจาก 30% มา 90% ที่ราว 45 นาที

ree
ree


โดยปกติหากผมเดินทางจากขอนแก่นเข้ากรุงเทพ รถ Tesla หากไม่ชาร์จเลย ถึงกรุงเทพจะเหลือระยะราว 60กม แต่หากได้เพิ่มอีก 100กม ความกังวลของการเดินทางแทบจะหายไป

ดังนั้นจากนี้ หากมีสถานีอัดประจุเพิ่มขึ้นทุกระยะ 100-200 กม การเสียเวลาเพียง 10-20 นาที น่าจะทำให้การใช้งานรถยานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมแน่นอน


ในช่วงเดือนมีนาคม ผู้ที่สนใจสามารถโหลดแอปพลิเคชัน Elexa ได้ทั้ง iOS , Android ได้เลยนะครับ ส่วนราคาขายราวหน่วยละ 7.6บาท ซึ่งสูงกว่าเรทไฟบ้านที่ 4.1บาท ไปลองใช้งานกันเลยครับ





ree
ree

ree


 
 
 

ree

สำหรับคนที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้า มาทำความเข้าใจกันเบื้องต้นกันก่อน


รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่จ่ายไฟ เรียกกันว่า Battery Electric Vehicle (BEV) โดยจะใช้เรียกรถที่ไม่ใช้น้ำมันเลย กรณีที่ใช้น้ำมันจะเรียกว่าระบบ Hybrid นะครับ


ขนาดของแบตเตอรี่จะเรียกกันที่พลังงานที่จ่ายให้รถยนต์ได้เป็น Wh (วัตต์ต่อชั่วโมง) โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในปัจจุบัน จะมีขนาดของแบตเตอรี่แตกต่างกัน แปลผันตรงกับราคา ยิ่งขนาดของแบตเตอรี่ใหญ่ราคาก็แพง

ขอยกตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าสักสามรุ่น

MG ZS EV 45kWh

Tesla Model 3 75kWh

Tesla Model X 100kWh


ตามหลักแล้วยิ่งขนาดของแบตเตอรี่ยิ่งใหญ่ก็ควรจะวิ่งได้ระยะทางที่ไกลขึ้น แต่ก็มีปัจจัยเรื่องขนาดและน้ำหนักตัวรถ รวมไปถึงระบบชุดขับ มอเตอร์ ทำให้ระยะที่เดินทางแตกต่างกัน วิธีที่ดูอย่างรวดเร็วคือดูที่อัตราการกินไฟของรถแต่ละรุ่น โดยมักจะแสดงในรูปแบบ Wh/km

MG ZS EV 190Wh/km หรือ 1kWhได้ประมาณ 5.26 กิโลเมตร

Tesla Model 3 160Wh/km หรือ 1kWhได้ประมาณ 6.25 กิโลเมตร

Tesla Model X 190Wh/km หรือ 1kWhได้ประมาณ 5.26 กิโลเมตร


ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจะแปลผันกับอัตราเร่ง หากยิ่งใช้ความเร็วสูงหรือเร่งบ่อย ก็ทำให้การใช้พลังงานมากตามไปด้วย รวมไปถึงสภาวะอากาศหากหนาวไปหรือร้อนไปก็มีผลเช่นกัน



การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อเข้าใจขนาดของแบตกับระยะทางที่วิ่งได้แล้ว ก็มาถึงการชาร์จรถกันบ้าง


เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะมีขนาดแรงดันแตกต่างกันไปตามกระแสไฟฟ้า โดยยิ่งกระแสไฟมากก็ให้พลังงานได้มากและชาร์จเร็ว ปกติแล้วกระแสไฟบ้านสำหรับเครื่องชาร์จไฟกระแสสลับ (AC) จะไม่เกิน 32A (แอมป์) ส่วนเครื่องชาร์จกระแสตรง (DC) ก็จะมีกระแสที่สูงกว่า


เพื่อให้เข้าใจแบบรวดเร็วอาจสรุปจากสูตร V x I = P เนื่องจากแรงดันไฟบ้านเราคือ 220 โวลต์ ดังนั้นกระแสที่มากก็ให้พลังงานที่มาก ขอยกตัวอย่างความแตกต่างของกระแสไฟ จำนวนเฟส ที่ให้พลังแตกต่างกัน


16A x 1phase, 220v x 16a = 3.52 kW

32A x 1phase, 220v x 32a = 7.04 kW

16A x 3phase, 220v x 3 x 16a = 10.56 kW

32A x 3phase, 220v x 3 x32a = 21.12 kW


จะเห็นว่าไฟสามเฟสจะให้พลังงานที่มากกว่าหนึ่งเฟส

เวลาที่ใช้ในการชาร์จรถก็ขึ้นกับพลังงานที่ปล่อยออกมา เช่นรถที่มีขนาดแบตเตอรี่ 100kWh หากใช้เครื่องชาร์จที่ให้พลังงานที่ 7kW หากจะชาร์จจาก 0% ไปจน 100% ต้องใช้เวลาถึง 14 ชั่วโมง

หากใช้เครื่องชาร์จที่ให้พลังงานที่ 21kW ก็จะใช้เวลาเพียง 4.7 ชั่วโมง


ถึงจุดนี้หลายท่านคงคิดว่าใช้เครื่องชาร์จที่ให้พลังงานเยอะก็ดีกว่า แต่มีเรื่องที่ต้องเข้าใจคือเมื่อเราใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ตัวรถเองจะมีตัวแปลงไฟเข้าแบตเตอรี่ที่เรียกว่า on-board charger ซึ่งในรถแต่ละค่ายจะติดตั้งมาไม่เท่ากัน เช่น MG ZS EV จะให้มาที่ 6kW ส่วน Tesla Model 3 ให้มาที่ 11 kW หากเราใช้เครื่องชาร์จที่จ่ายไฟมากกว่า on-board charger ก็ไม่มีประโยชน์เพราะรถปล่อยไฟได้เท่ากับความสามารถของ on-board charger เท่านั้น


การชาร์จรถผ่านเครื่องชาร์จกระแสตรง DC นั้นแตกต่างกัน เพราะไฟฟ้าจะผ่านเข้าไปชาร์จที่แบตเตอรี่โดยตรงทำให้กระแสไฟฟ้าไม่ผ่าน on-board charger โดยส่วนใหญ่เครื่องชาร์จ DC จะให้พลังงานตั้งแต่ 50 kW ไปจนถึง 250 kW เลยทีเดียว ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ชาร์จลดลงไปมากทีเดียว




ree

การติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าในบ้าน

สำหรับคนที่จะติดตั้งเครื่องชาร์จรถที่บ้าน ต้องดูว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านรองรับหรือไม่ โดยพิจารณากระแสไฟที่ใช้เป็นหลัก โดยปกติมิเตอร์ไฟบ้าน จะมีทั้งแบบ 5(15) , 15(45) , 30(100) คือค่าของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ได้ โดยตัวที่อยู่ในวงเล็บคือกระแสสูงสุดที่ใช้ได้ แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่องยาวนานเกินไป

จากเรื่องการชาร์จรถข้างตนหากเราต้องการไฟฟ้า 32A 1phase เราต้องมีมิเตอร์อย่างต่ำ 15(45) เพื่อที่จะได้กระแส 45A และต้องพิจารณาว่าช่วงที่ใช้ชาร์จรถนั้น มีอุปกรณ์ในบ้านกินกระแสรวมแล้วถึง 45A หรือไม่ หากมีอาจต้องเพิ่มมิเตอร์เป็น 30(100) แทน เป็นต้น ส่วนการมีสามเฟส ก็เหมือนได้สายไฟเพิ่มมาอีกสองชุด ทำให้ได้ไฟมากขึ้นเป็นสามเท่านั่นเอง


ปกติแล้วการเปลี่ยนมิเตอร์ ต้องเปลี่ยนขนาดของสายไฟฟ้าที่จะเดินเข้าตู้ไฟในบ้าน ซึ่งจุดนี้ก็อาจเกิดต้นทุนในการติดตั้งเพิ่ม ทำให้บางคนเลือกที่จะติดมิเตอร์แยก และเดินสายเข้าที่โรงรถแทน เช่นติดมิเตอร์ 15(45) แล้วเดินสายไฟเข้าที่จุดชาร์จรถ นั่นจะทำให้การใช้ไฟฟ้าไม่โหลดเกินไป


โดยปกติแล้วการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับคนที่เดินทางไปกลับบ้านทุกวัน สามารถชาร์จรถได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องรอให้แบตเตอรี่ใกล้หมด หากใช้เครื่องชาร์จที่ให้พลังงาน 7kW การชาร์จข้ามคืนนั้นเพียงพออยู่แล้ว แถมการชาร์จรถในขณะที่แบตเตอรี่ 50% ไม่ต้องรอจนใกล้หมดก็เป็นการถนอมอายุของแบตเตอรี่ด้วย ดังนั้นหากพิจารณาจากจุดนี้เชื่อว่าการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเช่นกัน



ก็น่าจะทำให้หลายคนที่กำลังพิจารณารถยนต์ไฟฟ้า คลายกังวลและไขข้อข้องใจได้บ้างแล้ว

หากบทความนี้เป็นประโยชน์อยากให้ช่วยแชร์ให้เพื่อนอ่านด้วยนะครับ


ขอบคุณครับ




 
 
 

0815456444

©2021 by T2LA. Proudly created with Wix.com

bottom of page